วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Futures เหมาะกับ Port ทุกขนาด: หลักหมื่นบาทไปถึงมากกว่าหลายแสนบาท

Future ที่นิยมซื้อขายในปัจจุบันจะประกอบไปด้วย Gold future, Set50 index future, Stock future โดยจะมีขนาด contract value ที่ต่างกันในปริมาณเงิน สามารถใช้บริหารความเสี่ยงหรือ directional trading ได้ใน Port ที่มีขนาดเล็กหลัก หมื่นบาทไปถึงหลักแสนบาท หรือหลายสิบล้าน
Future Contract หรือ spec ของสัญญา จะระบุจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องวางเงินประกัน Initial Margin, IMเพื่อจะเปิดสัญญา, open position ถ้าต้องการเปิด 1 สัญญาต้องมีเงินขั้นต่ำ > IM ก็จะเปิดสัญญาได้แล้ว
IM จะประกาศโดย TFEX ที่จะ update เมื่อค่าความแกว่งของราคา future เปลี่ยนแปลง อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามความแกว่างของราคา
ยกตัวอย่าง IM ที่ประกาศใช้ วันที่ 20 ธันวาคม 2556
ดูที่ช่อง Individual Investor Margin->Outright->Initial Margin หน่วยเป็น บาท
  • SET50 Index: 85,500 (ปัจจุบันปี 2560 ประมาณ 5000 บาท)
  • 50 Baht Gold: 76,000
  • 10 Baht Gold: 15,200
  • KTB:                 2,698
  • JAS:                  1,368
  • TRUE:               1,520
  • USD:                    950
จะพบว่า IM มีตั้งแต่ระดับ เกือบแสนบาท ไปถึง หลักเกือบพันบาท มีเงินลงทุนประมาณหลักพันบาทก็สามารถ open position ได้แล้ว และถ้าต้องการลงทุนจำนวนมากเป็นระดับมากกว่าล้านบาท การ open position ใน SET50, Gold ก็สามารถทำได้หลายสัญญาเพื่อให้เหมาะสมกับเงินลงทุน
หลัง 6 พ.ค. 2557 SET50 Index future มี IM ลดล 5 เท่า IM จะเท่ากับ 11,400 บาท
IM ที่ประกาศใช้ วันที่ 30 เมษายน 2557
IM 11,400 บาท มีมูลค่าจริงประมาณ 950*200=190,000 บาท , SET50  ประมาณ 950 จุด

ขนาด IM ที่ประกาศส่วนมากจะมี leverage ประมาณ 10 เท่าของมูลค่าสินค้าจริง
เช่น 10 Baht gold จะมีมูลค่าจริงประมาณ 190,000 บาท ใช้ IM 1.5 หมื่น , KTB มีมูลค่าจริง 1000 หุ้น = 18,000 บาท IM 2,698 การที่กำหนด IM ที่ leverage 1:10 ไม่ได้หมายความว่าให้วางเงินลงทุนจำนวนเท่ากับ IM พอดีเพราะถ้าทำแบบนั้นถ้าเกิดความเสียหายขึ้น จำนวน contract ที่เปิดครั้งต่อไปจะลดลงหรือไม่สามารถเปิดได้ ต้องเติมเงินส่วนที่หายไปกลับคืนมาจึงจะ open position ได้ ซึ่งมักเป็นปัญหาของนักลงทุนมือใหม่ไม่ว่าจะมีเงินลงทุนมากแค่ใดก็มักจะเข้าใจและใช้ IM เต็มประสิทธิภาพมากเกินควร

การเลือก Contract: เลือกสินค้าตัวไหน
การเลือก contract ที่ต้องการลงทุนนอกจากคำนึงถึง IM แล้วควรคำนึงถึงสภาพคล่องความนิยมในการซื้อขายโดยดูที่ ปริมาณการซื้อขาย ต่อวันควร > 1,000 ปริมาณที่มากจะหมายถึง จำนวนแต่ละช่องราคามีจำนวน bid ask จำนวนมากพอให้เข้าออก open ,close position ได้สะดวก ราคาไม่ห่างกันมากแต่ละช่องราคา แต่ละช่องราคาควรมีขนาด > 10 สัญญา หรือใกล้เคียง จะเป็นจำนวนที่เหมาะสม
ยกตัวอย่าง
S50Z13 ถ้า Bid 15,920.10: Ask 5,920.3  การเลือกที่จะ open หรือ close position ก็จะสะดวก ไม่เกิด slippage(การได้ราคาห่างจากที่ต้องการ) จาก spread(spread=0.2 ตามตัวอย่าง)
ถ้า Bid 1,920: Ask 2,921 ช่องราคาที่ห่าง และจำนวนที่สัญญาที่วางน้อยเกินไป เมื่อจะ open, close จะทำให้ต้นทุนสูงและจำนวนไม่เพียงพอ

Rollover เลือกสัญญาเดือนไหนดี
SET50, Gold  ในเดือนที่สัญญา 3 เดือนใกล้สุด , สัญญาจะมี H,M,U,Z  (H:มีค.,M:มิย.,U:กย.,Z:ธค.) ซึ่งจะเป็นสัญญาที่นิยมมากที่สุด มีสัญญาเดือนใกล้กว่านั้นอีก 2 สัญญาแต่ก็มักมีปริมาณซื้อขายที่น้อยกว่ามาก ตัวอักษรที่ต่อท้ายสินค้า จะเรียก A-Z ตามเดือนไม่ใช่ชื่อย่อของเดือน
การซื้อขายความซื้อขาย 3 เดือนที่ใกล้ที่สุดเหล่านี้ แต่ถ้าซื้อขายในเดือนที่สัญญากำลังจะหมดสัญญา ก่อน 1 อาทิตย์ contract ของอีก 3 เดือนข้างหน้าจะได้รับความนิยมขึ้นมาแทน
เช่น เดือนนี้ เดือนธันวาคม วันที่ 20 อีกประมาณ 1 อาทิตย์ สัญญาที่จะหมดอายุเดือนนี้ คือ S50Z13 การเปิด position ใหม่ควรเลือก S50H14 ซึ่งหมดอายุ เดือน มีค. 14 ไม่ควรเปิด Position ของ S50Z13 ที่จะหมดอายุเดือนนี้ในอีก 10 วันข้างหน้า
ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ open postion ของ S50Z13 มาก่อนหน้า แต่ยังต้องการเปิด position ต่อเนื่อง สิ่งที่ทำจะเป็นการ rollover สัญญา โดยจะ close position เดือนปัจจุบัน แล้ว open position เดือนไกลแทน
เช่น close postion long S50Z13, sell close ใน streaming , แล้ว open position S50H14, buy open การกระทำเช่นนี้จะเรียกว่า rollover เปลี่ยนสัญญาไป contract ถัดไป

โดยปกติการ rollover จำนวนสัญญาจำนวนมากจะเกิดในช่วงก่อน 10 วันสุดท้ายที่ contract หมดอายุ สภาพตลาดของสินค้าอ้างอิงถ้าเป็น SET50, Stock จะมีลักษณะที่ทรงตัว หรือแบบ แกว่งขึ้นลงแรง ซึ่งอาจจะเป็นที่สงสัยว่า เจ้าของสัญญา contract บังคับให้เกิดสภาพแบบนั้นหรือไม่ ถ้าทรงตัวก็อาจหวังให้ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลงมาก แต่ถ้าแกว่งตัวแรง contract ที่ถืออยู่อาจกำลังเสียเปรียบขึ้นกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นขณะนั้น การ rollover จะเกิดขึ้นเสมอเมื่อ contract ใกล้หมดอายุ ดังนั้นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติจะเกิดขึ้นกับสินค้าอ้างอิงเสมอ
ใน Gold, USD จะไม่มีสภาพดังกล่าวให้พบเห็นบ่อยนักใน TFEX เพราะตลาดอ้างอิงเป็นตลาดโลกที่การ control ยากที่จะทำได้ แต่ถ้าเป็น SET50, Stock ปริมาณเงินจำนวนนึงพอจะสามารถเปลี่ยนทิศได้ชั่วคราว

Leverage ที่เหมาะสม
เปรียบเทียบการลงทุนใน Forex จะมี leverage ที่ระดับ 1:33 ถึง 1:500 ได้ เนื่องจากถ้าคิดเป็น % การเปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนแปลง % ทศนิยมหลักที่ 2-4 เช่น 0.03% ถ้า leverage 1:100 การเปลี่ยนแปลง= 3% ของเงินลงทุน

สำหรับ TFEX การคำนวณเงินลงทุนที่ต้องมากกว่า IM ต้องใช้การคำนวณที่มีการทดสอบวิจัยมาอย่างดีแล้ว ในระดับที่ปลอดภัยส่วนมากจะประมาณ leverage ที่ 1:2 เป็นระดับที่ปลอดภัยที่เหมาะสม แต่บางสินค้าอาจเพิ่มระดับ leverage ได้ไปถึง 1:5 แล้วแต่ความแกว่งของราคาที่มากหรือน้อย ราคาใน Gold, Index, Stock ส่วนมากจะขยับประมาณ 1-5% ซึ่งการขยายกำไรขาดทุนไปที่ 2-10% ก็เหมาะสมที่จะไม่ทำให้ Port เป็นอันตรายจากความผิดพลาดมาก แต่ถ้า 1:10 กำไรขาดทุนจะขยายไปได้ถึง 10-50% ถ้าเกิดความผิดพลาดที่ระดับ 50% แค่ครั้งเดียวการเปิด position ต่อไปจะทำไม่ได้ซึ่งจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งสำหรับนักลงทุน TFEX มือใหม่ ที่มองข้ามอำนาจด้านมืดในการขาดทุนสูงไป

การลงทุนใน TFEX ไม่ได้เหมาะเฉพาะ Port ระดับหลักแสนบาท จึงจะลงทุนได้อย่างที่เข้าใจถ้ามองเฉพาะ SET50 Index future ที่ IM ระดับเกือบแสนบาท แต่ยังเหมาะสำหรับ Port ระดับหลักพันบาท หลักหมื่นบาทด้วย การใช้ leverage ระดับ 10 เท่าจะช่วยลดจำนวนเงินลงทุนลงได้ 10 เท่า
แต่การลงทุนที่มี leverage สูงระดับ 10 เท่าจะขยายขนาดกำไรขาดทุนให้ได้มาก ควรมีกลยุทธในการคำนวณเงินลงทุนที่เหมาะสมกับจังหวะซื้อขายที่ ถ้าเกิดความผิดพลาดต่อเนื่องขึ้นจะไม่ทำให้ Port ลงทุนเกิดความเสียหายมากจนไม่สามารถลงทุนต่อได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น